ภาษากาย คือการใช้พฤติกรรมทางร่างกายเพื่อการสื่อสาร ซึ่งเป็นภาษาอีกประเภทนึงเพื่อแสดงความหมาย หากเราทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีนั้นก็จะเป็นเรื่องง่ายในการอ่านความนัยใจของพฤติกรรมที่แสดงออกมาได้อย่างง่าย เราลองมาสังเกตุภาษากายโดยทั่วไปกันดีกว่า
- มองนาฬิกา ในกรณีนี้หมายถึงการมองนาฬิกาบ่อยครั้งจนผิดสังเกตการกระทำนี้บ่งบอกถึงความอึดอึด ไม่สบายใจ ความเบื่อหน่าย หรือไม่สนใจในบนสนทนานั้นที่กำลังเกิดขึ้น การแสดงออกนี้เป็นบ่งบอกโดยตรงคือ การอยากจบสนทนานี้โดยเร็วที่สุด หรือคู่สนทนาอาจจะรอคอยอะไรบ้างอย่าง หรือรีบไปที่ไหนที่หนึ่งก็เป็นได้ ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าแล้วแต่กรณี
- นั่งกอดอก อาการนั่งกอดอกเป็นอาการของคนที่รู้สึกอึดอัด ไม่สามารถพูดตามอย่างที่ตนเองอยากจะแสดงความคิดเห็นได้ หรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความคิดเห็นในข้อสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น อีกนัยนึงหากคือสนทนาของคุณเป็นผู้มีอำนาจหรือแก่กว่านั้นคือการแสดงความมีอำนาจ หรือการวางอำนาจ
- นั่งไขว่ห้าง ไม่ว่าใครที่นั่งในลักษณะนี้ไม่ว่าจะนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหรือฝั่งเดียวกัน นั่นคือการแสดงความมั่นใจในตัวเองของคู่สนทนา หรือบ่งบอกถึงความจินตนาการ หรือการใช้ความคิด ผู้ที่นั่งไขว่ห้างจะเกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่ในเหตุการณ์ในการระดมความคิด การถกเถียง หรือการประชุม
- นั่งมือประสาน ความหมายในการกระทำนี้สื่อถึง พฤติกรรมที่ผู้กระทำระมัดระวังการกระทำหรือคำพูด หรือการครุ่นคิดที่ค่อนข้างจริงจังหรือความกลุ้มอกกลุ้มใจ ส่วนใหญ่พฤติกรรมนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
- นั่งเท้าคาง ลักษณะการนั่งเท้าใต้คางหรือเอามือทั้งสองมือจับแก้มเป็นลักษณะของการใช้ความคิดกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หรือตั้งหน้าตั้งตาจดจ่อกับบทสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนั้น บางครั้งอาจจะบ่งบอกถึงอาการใจลอยอีกด้วย
- นั่งก้มหน้า หากการคู่สนทนากำลังก้มหน้าหรือตอบคำถามในขณะที่ก้มหน้าลงนั่นหมายถึงเขาหรือเธอกำลังซ่อนความรู้สึก ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าสู้ความจริง แต่ถ้าเป็นบทสนทนาของหนุ่มสาวการก้มหน้าบ่งบอกถึง ความประหม่าและอาการเขินอาย
- หัวเราะที่มากเกินไป บางครั้งการหัวเราะที่เกินความจำเป็นก็บ่งบอกถึงแผนการที่กำลังปกปิดเอาไว้หรือการคิดไม่ซื่อ ในบางครั้งการหัวเราะนั้นก็เป็นการลดความประหม่าของคนีกหลายคนอีกด้วย
- เล่นใบหู จิตวิทยาส่วนใหญ่บ่งบอกถึงการกดเก็บอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเอาไว้และไม่อยากแสดงออกมาเท่าไรนัก หรือเป็นการแสดงความคิดอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องการความคิดเห็นจากคู่สนทนาอีกต่อไป
- ชอบหยุกหยิก การใช้มือสะกิดหรือชอบจับบ่า จับเข่าคู่สนทนา ส่อแสดงนิสัยถึงความลังเลและไม่แน่นอนหรือสัญญาณแห่งการให้กำลังใจ คล้อยตามเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกดีขึ้น พอใจ นั่นอาจจะหมายถึงการโกหกในทางที่ดี (white lie) ก็เป็นได้
- เกาหัว พฤติกรรมนี้เป็นการกระทำที่พบเห็นบ่อยที่สุด บ่งบอกถึงการไม่แน่ใจนัก ไม่กล้าออกความคิดเห็น หรือคิดไม่ออก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เลวร้ายเท่าไรนัก แต่หากอยู่ในระหว่างประชุมหรือการระดมความคิดอยู่นั้น ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
- กัดเล็บ ส่วนใหญ่การกระทำในแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเรายังเป็นเด็ก การกระทำนี้ในเด็กบ่งบอกถึงการครุ่นคิด หรือภาวะความเครียดที่สะสมมาพอสมควร หากเกิดขึ้นในผู้ใหญ่จะแสดงถึงความตรึงเครียด มีลับลมคมใน หรือความกดดันในการกระทำความผิดอะไรสักอย่างอยู่
- กัดริมฝีปาก การกัดริมฝีปากจะเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ เท่านั้น ควรสังเกตุให้ดี เพราะภาษากายอันนี้สำคัญมาก เพราะบ่งบอกถึง การโกหก หรือปกปิดข้อมูลที่แท้จริงเอาไว้ เพื่อหวังว่าจะปกปิดความจริงหรือข้อมูลกับผู้ฟัง เชื่อหรือไม่…แม้แต่อดีตประธาณาธิปดีของสหรัฐอเมริกายังเคยพลาดมีพฤติกรรมแบบนี้ออกมาบ่อยครั้ง
- จับคาง การลูบคลำใต้คางหรือจับปลายคาง เป็นการแสดงพฤติกรรมของนักคิดหรือผู้ใช้สมอง แม้แต่รูปปั้นอันมีชื่อเสียงไปทั่วโลก (the thinker) ก็ทำท่าจับปลายคางอีกด้วยนั่นคือพฤติกรรมอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไป
- เล่นหัวแม่มือ หากคู่สนทนานั่งเอามือประสานกัน และแกว่งนิ้วหัวแม่มือหรือเล่นกับมันไปมา นั่นหมายถึงจิตใจที่ล่องลอยไปที่อื่น หรือกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ ใจลอย หรือไม่มีสมาธิเท่าไรนัก
- เคาะนิ้ว การกระทำนี้บ่งบอกถึงความรู้สึกที่รีบเร่งหรือเบื่อหน่ายคู่สนทนา และอยากจะออกจากวงสนทนานี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การกระทำเคาะนิ้วนี้เป็นการแสดงออกทางกายที่บ่งบอกถึงการไม่มีความเกรงใจคู่สนทนาอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
ภาษากายบ่งบอกอะไร เมื่อเจอหน้าครั้งแรก5